เมนู

ว่า พ่อสุเมธะ เจ้าจงยกชิ้นเนื้อขึ้น เอาศาสตราขุดดู. สุเมธะเอาศาสตราขุดลง
ไปได้เห็นนาค จึงเรียนว่า นาคขอรับ. พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า นาคจงอยู่
เจ้าอย่าเบียดเบียนนาคเลย จงทำความนอบน้อมต่อนาค. ดูก่อนภิกษุ ท่านพึง
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วทูลถามปัญญา 15 ข้อเหล่านี้แล ท่านพึงจำ
ทรงปัญหาเหล่านั้น ตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์. ดูก่อนภิกษุ
ข้าพเจ้าย่อมไม่เห็นบุคคลในโลกพร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ใน
หมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์ ที่จะยังจิตให้ยินดีด้วยการ
พยากรณ์ปัญหาเหล่านี้ นอกจากพระตถาคตหรือสาวกของพระตถาคต หรือ
เพราะฟังจากสำนักนี้. เทวดานั่นครั้นกล่าวคำนี้แล้ว ได้หายไปในที่นั้นแล.

ทูลถามปัญหา 15 ข้อ


[290] ครั้งนั้นแล ท่านพระกุมารกัสสปะ เมื่อราตรีนั้นล่วงไปแล้ว
เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระเจ้า ถวายอภิวาทแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ได้กราบ
ทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อคืนนี้เทวดาองค์หนึ่ง มี
วรรณงามยิ่ง ราตรีล่วงปฐมยามไปแล้ว ยังป่าอันธวันทั้งสิ้นให้สว่างแล้วเข้า
ไปหาข้าพระองค์ ยืน ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ได้กล่าวกะข้าพระองค์ว่า ดูก่อน
ภิกษุ จอมปลวกนี้พ่นควัน ในเวลากลางคืน ลุกโพลงในกลางวัน พราหมณ์
ได้กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อสุเมธะ เจ้าจงเอาศาสตราขุดดู. สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไป
ได้เห็นลิ่มสลัก จึงเรียนว่า ลิ่มสลักขอรับ. พราหมณ์ กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อ
สุเมธะ เจ้าจงยกลิ่มสลักขึ้น เอาศาสตราขุดดู. สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไปได้เห็น
อึ่ง จึงเรียนว่า อื่นขอรับ. พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อสุเมธะ เจ้าจงยกอึ่ง
ขึ้น เอาศาสตราขุดดู สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไปได้เห็นทาง 2 แห่ง จึงเรียน
ว่า ทาง 2 แพร่งขอรับ. พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อสุเมธะ. เจ้าจงก่นทาง
2 แพร่งเสีย เอาศาสตราขุดดู สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไปได้เห็นหม้อกรองน้ำ
ด่าง จึงเรียนว่า หม้อกรองน้ำด่างขอรับ. พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อสุเมธะ

เจ้าจงยกหม้อกรองน้ำด่างขึ้นเอาศาสตราขุดดู. สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไปได้เห็น
เต่า จึงเรียนว่า เต่าขอรับ. พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อสุเมธะ เจ้าจงยก
เต่าขึ้น เอาศาสตราขุดดู. สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไปได้เห็นเขียงหั่นเนื้อจึงเรียน
ว่า เขียงหั่นเนื้อขอรับ. พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อสุเมธะ เจ้าจงยกเขียง
หั่นเนื้อขึ้นเอาศาสตราขุดดู. สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไปได้เห็นชิ้นเนื้อ จึงเรียน
ว่า ชิ้นเนื้อขอรับ. พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า พ่อสุเมธะ. เจ้าจงยกชิ้นเนื้อขึ้น
เอาศาสตราขุดดู. สุเมธะเอาศาสตราขุดลงไปได้เห็นนาค จึงเรียนว่า นาคขอรับ.
พราหมณ์กล่าวอย่างนี้ว่า นาคจงอยู่เถิด เจ้าจงอย่าเบียดเบียนนาคเลย จงทำ
ความนอบน้อมต่อนาค. ดูก่อนภิกษุ ท่านพึงเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าทูล
ถาม ปัญหา 15 ข้อเหล่านี้เเล ท่านพึงจำทรงปัญหาเหล่านั้นตามที่พระผู้มีพระ
ภาคเจ้าทรงพยากรณ์. ดูก่อนภิกษุ ข้าพเจ้าย่อมไม่เห็นบุคคลในโลกพร้อมทั้ง
เทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและ
มนุษย์ ที่ยังจิตให้ยินดีด้วยการพยากรณ์ปัญหาเหล่านี้ นอกจากพระตถาคต
หรือสาวกของพระตถาคต หรือเพราะฟังจากสำนักนี้. เทวดานั้นครั้น กล่าวคำนี้
แล้วได้หายไปในที่นั้นแล.
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ อะไรหนอแลชื่อว่าจอมปลวก อย่างไรชื่อว่า
พ่นควันในกลางคืน อย่างไรชื่อว่าลุกโพลงในกลางวัน อะไรชื่อว่าพราหมณ์
อะไรชื่อว่าสุเมธะ อะไรชื่อว่าศาสตรา อย่างไรชื่อว่าการขุด อะไรชื่อว่าลิ่มสลัก
อะไรชื่อว่าอึ่ง อะไรชื่อว่าทาง 2 แพร่ง อะไรชื่อว่าหม้อกรองน้ำด่าง อะไร
ชื่อว่าเต่า อะไรชื่อว่าเขียงหั่นเนื้อ อะไรชื่อว่าชิ้นเนื้อ อะไรชื่อว่านาค ดังนี้.

ทรงพยากรณ์ปัญหา 15 ข้อ


[291] ผู้มีพระภาคเจ้าทรงพยากรณ์ว่า ดูก่อนภิกษุ คำว่าจอม
ปลวกนั่นเป็นชื่อของกายนี้ อันประกอบด้วยมหาภูตรูปทั้ง 4 ซึ่งมีมารดาบิดา
เป็นแดนเกิด เจริญด้วยข้าวสุกและขนมกุมมาส ไม่เที่ยง ต้องอบรม ต้องนวด